เพื่อให้ตรงกับความต้องการของตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการพัฒนาให้ไม้ mdf มีความทนทานต่อความชื้นและความร้อนมากขึ้น เพื่อให้สามารถนำไปใช้งานในพื้นที่ที่มีความท้าทาย เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว หรือแม้กระทั่งการใช้งานภายนอกอาคาร ซึ่งปัจจุบันก็มีผลิตภัณฑ์ mdf บางชนิดที่สามารถรองรับการใช้งานเหล่านี้ได้แล้ว และมีแนวโน้มที่จะมีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อให้ไม้ mdf มีคุณสมบัติที่ดียิ่งขึ้นไปอีก
ไม้ mdf ยังเปิดโอกาสให้กับนักออกแบบ
ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ได้ทดลองและสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพราะเป็นวัสดุที่สามารถขึ้นรูปและปรับแต่งได้ตามความต้องการโดยไม่เสียคุณสมบัติพื้นฐาน เช่น ความแข็งแรงและความสม่ำเสมอของพื้นผิว นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มลูกเล่นในการตกแต่ง เช่น การพ่นสี การเคลือบเงา หรือการทำลวดลายด้วยเทคนิคต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะกับแนวคิดหรือความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการงานออกแบบที่มีเอกลักษณ์และเป็นเฉพาะตัว ไม้ mdf จึงเป็นวัสดุที่ทั้งนักออกแบบ สถาปนิก และผู้ใช้งานทั่วไปต่างให้ความไว้วางใจ
เพราะไม่เพียงแต่นำเสนอความคุ้มค่าทั้งในด้านราคาและการใช้งาน แต่ยังเป็นวัสดุที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ทั้งในด้านการตกแต่งภายในและการก่อสร้าง ไม่ว่าคุณจะต้องการงานเฟอร์นิเจอร์ที่ดูดีในราคาย่อมเยา หรือต้องการวัสดุที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการออกแบบที่ซับซ้อน ไม้ mdf จะยังคงเป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกโครงการที่คุณต้องการ ไม้ mdf ก็ได้รับความสนใจในฐานะวัสดุที่สามารถตอบโจทย์ โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับไม้ธรรมชาติที่ต้องการการตัดต้นไม้เพื่อใช้งาน
การผลิตไม้ mdf ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการใช้ไม้เนื้อแข็งจากต้นไม้โดยตรง
แต่ใช้เศษไม้หรือเส้นใยไม้ที่เป็นผลพลอยได้จากอุตสาหกรรมแปรรูปไม้มาเป็นวัตถุดิบหลัก ทำให้ช่วยลดปริมาณของเสียที่เกิดจากการผลิตไม้ธรรมชาติ และลดการตัดต้นไม้ ซึ่งเป็นการช่วยรักษาป่าไม้และสิ่งแวดล้อมไปในตัว ในกระบวนการผลิตไม้ mdf สมัยใหม่ ยังมีการพัฒนากระบวนการเพื่อให้วัสดุนี้มีคุณสมบัติเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น การลดหรือหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมอย่างฟอร์มัลดีไฮด์ และการนำเทคโนโลยีการผลิตที่ใช้พลังงานน้อยลงเข้ามาช่วย นอกจากนี้ยังมีการพัฒนา mdf แบบใหม่ที่สามารถรีไซเคิลได้หรือสามารถย่อยสลายทางชีวภาพได้ สอดคล้องกับแนวโน้มการพัฒนาอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างที่ต้องการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การใช้งานไม้ mdf ในโครงการก่อสร้างหรือออกแบบที่ต้องการได้รับการรับรองมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม เช่น มาตรฐาน LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) จึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายมากขึ้น เนื่องจากไม้ mdf สามารถตอบสนองต่อข้อกำหนดด้านการใช้วัสดุที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่ำ นี่เป็นเหตุผลที่โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น อาคารสำนักงาน โรงแรม และโครงการอสังหาริมทรัพย์สมัยใหม่ หันมาใช้ไม้ mdf เป็นหนึ่งในวัสดุหลักในการตกแต่งภายในและการออกแบบโครงสร้าง
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.rmc.co.th/knock-down